ร้อนระอุขนาดนี้ ใคร ๆ ก็อยากเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ แต่รู้ไหมว่าการเปิดแอร์แบบไม่ถูกวิธี ทำให้ค่าไฟพุ่งพรวดได้มากกว่าที่คิด! อยากรู้เคล็ดลับประหยัดไฟ ขณะใช้เครื่องปรับอากาศแบบไม่ต้องทนร้อน มาไขปริศนาไปพร้อมกัน
บทความนี้จะเผยเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้ถึง 30% และซื้อแอร์ที่ไหนดี รวมทั้งแนะนำวิธีเลือกซื้อแอร์ปรับอากาศเหมาะสมกับขนาดห้อง ราคา แอร์บ้านหรือการใช้งาน อยากรู้วิธีใช้แอร์ให้เย็นฉ่ำแบบสบายกระเป๋า และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม มาดูเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้กันเลย
หน้าร้อนแบบนี้ แอร์กลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้เลยใช่ไหม? แต่การเลือกซื้อแอร์ปรับอากาศสักเครื่องก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีรุ่นมียี่ห้อให้เลือกมากมายจนเลือกไม่ถูก หัวข้อนี้จะพาไปเจาะลึกวิธีเลือกซื้อแอร์ให้คุ้มค่า เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสความเย็นสบายแบบประหยัดค่าไฟ ดังนี้
ขนาด BTU ควรสอดคล้องกับพื้นที่ห้อง
ห้องขนาด 9-15 ตร.ม. ใช้แอร์ขนาด 9,000-12,000 BTU
ห้องขนาด 16-20 ตร.ม. ใช้แอร์ขนาด 12,000-18,000 BTU
หากเลือก BTU ต่ำเกินไป แอร์จะทำงานหนักและเสียเร็ว หากเลือกสูงเกินไปจะสิ้นเปลืองพลังงาน
แอร์ติดผนัง: เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง ติดตั้งง่าย ดูแลรักษาง่าย
แอร์แขวนเพดาน: เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ ติดตั้งซ่อนเพดาน ทำให้ห้องดูโล่ง
แอร์แบบตั้งพื้น: เหมาะสำหรับห้องต้องการความเย็นเฉพาะจุด หรือห้องไม่มีท่อลม
แอร์ปรับอากาศแบบเคลื่อนย้ายได้: เหมาะสำหรับห้องต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถเคลื่อนย้ายไปยังห้องต่าง ๆ ได้
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: บ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานของเครื่องปรับอากาศ ยิ่งมีดาวมากเท่าไหร่ ยิ่งประหยัดไฟมากขึ้นเท่านั้น
ค่า SEER: อัตราส่วนประสิทธิภาพพลังงานตามฤดูกาล ค่า SEER ที่สูงขึ้น หมายถึงประสิทธิภาพในการทำความเย็นดีขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น
ระบบกรองอากาศ: ช่วยให้ได้อากาศที่สะอาด ปราศจากฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก
ระบบ Inverter: ช่วยควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์ ทำให้ประหยัดพลังงานและลดเสียงดัง
Wi-Fi Control: ควบคุมแอร์ผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบาย
กำหนดงบประมาณที่ต้องการจะใช้ ในการซื้อแอร์ติดบ้าน
เปรียบเทียบราคาแอร์และสเปคของแต่ละรุ่น เพื่อเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ ราคาคุ้มค่าที่สุด
สินค้ามีคุณภาพ: ร้านค้าน่าเชื่อถือ จะคัดสรรสินค้ามีคุณภาพมาจำหน่าย มีการรับประกันสินค้า และมีมาตรฐานในการตรวจสอบสินค้าก่อนส่งมอบ ทำให้ใช้งานแอร์ได้ยาวนาน
บริการหลังการขาย: ในกรณีเกิดปัญหาหรือต้องการอะไหล่เปลี่ยน ร้านค้าน่าเชื่อถือจะมีบริการหลังการขายรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้หมดกังวล
คำแนะนำที่ถูกต้อง: พนักงานขายมีความรู้และประสบการณ์ จะสามารถให้คำแนะนำในการเลือกซื้อแอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการได้ตรงจุด มีทั้งขายแอร์พร้อมติดตั้ง อำนวยความสะดวก
ราคายุติธรรม: ร้านค้าน่าเชื่อถือ มักจะมีราคาเครื่องปรับอากาศสมเหตุสมผล ไม่บวกราคาเกินจริง และมีโปรโมชั่นน่าสนใจ
การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศให้คุ้มค่า ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดห้อง ประเภทของแอร์ ฉลากประหยัดไฟ ฟังก์ชันเสริม งบประมาณและเลือกซื้อจากร้านค้าน่าเชื่อถือ การเปรียบเทียบราคา แอร์บ้านและศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ จะช่วยให้เลือกซื้อแอร์บ้าน ราคา ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแน่นอน
ร้อนระอุแบบนี้ แอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกบ้าน แต่จะเลือกเครื่องปรับอากาศขนาดไหนดี? หลายคนคงสงสัยว่า BTU คืออะไร และจะเลือกให้เหมาะสมกับห้องขนาดเท่าไหร่ดี โดย BTU ย่อมาจาก British Thermal Unit เป็นหน่วยวัดความเย็นของเครื่องปรับอากาศ หมายถึงปริมาณความร้อนที่เครื่องปรับอากาศสามารถดูดซับออกจากอากาศได้ในหนึ่งชั่วโมง ยิ่งค่า BTU สูง แสดงว่าแอร์ปรับอากาศมีความสามารถในการทำความเย็นได้มากขึ้น โดยมีวิธีเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสม ดังนี้
วัดขนาดห้อง: กว้าง x ยาว = พื้นที่ห้อง (ตารางเมตร)
คำนวณ BTU คูณด้วยค่าคงที่: ค่าคงที่นี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของห้อง เช่น
ห้องนอน: คูณด้วย 700-750
ห้องนั่งเล่น: คูณด้วย 750-850
ห้องครัว: คูณด้วย 900-1,000
ผลลัพธ์ที่ได้คือ BTU ที่เหมาะสม
ตัวอย่าง: ห้องนอนขนาด 3x4 เมตร
พื้นที่ห้อง = 3 x 4 = 12 ตารางเมตร
เลือกค่าคงที่ 700 (สำหรับห้องนอน)
BTU แอร์ ที่เหมาะสม = 12 x 700 = 8,400 BTU
พิจารณาปัจจัยอื่น ๆ
จำนวนคนในห้อง: ถ้ามีคนเยอะ ควรเลือก BTU ที่สูงขึ้น
เครื่องใช้ไฟฟ้า: เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ ตู้เย็น จะปล่อยความร้อนออกมา ทำให้ต้องใช้ BTU สูงขึ้น
จำนวนหน้าต่าง: ถ้าห้องมีหน้าต่างเยอะ ควรเลือก BTU เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ทิศทางของห้อง: ถ้าห้องหันไปทางทิศโดนแดดจัด ควรเลือก BTU สูงขึ้นเล็กน้อย
การเลือก BTU แอร์ให้พอดีหรือเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ได้สัมผัสความเย็นสบาย ประหยัดค่าไฟ และเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ นอกจากขนาด BTU แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาร่วมด้วย
การเลือกซื้อแอร์สักเครื่องเป็นการลงทุนที่สำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้ได้สัมผัสความเย็นสบายแล้ว ยังส่งผลต่อค่าไฟฟ้าในระยะยาวอีกด้วย วิธีเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้องหรือการใช้งานเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะจะส่งผลดีหลายด้าน ดังนี้
ประหยัดค่าไฟ: เลือกขนาด BTU แอร์ให้เหมาะสมกับห้อง จะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำงานหนักเกินไป จึงช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ เลือกแอร์ที่มีเทคโนโลยีประหยัดไฟ เช่น Inverter หรือแอร์มีฉลากเบอร์ 5 ก็จะช่วยลดค่าไฟฟ้าอย่างเห็นได้ชัด
เย็นสบายทั่วถึง: แอร์ปรับอากาศขนาดเหมาะสมจะทำความเย็นได้ทั่วถึงห้อง ไม่เย็นเกินไปหรือไม่เย็นพอ ทำให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ทำให้ไม่เปลืองไฟ
เพิ่มอายุการใช้งาน: วิธีใช้งานเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมจะช่วยให้เครื่องไม่เสียเร็ว เพราะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
สุขภาพดี: แอร์บางรุ่นมีฟังก์ชันกรองอากาศ ทำให้ได้สูดอากาศที่สะอาด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคทางเดินหายใจ
ลดเสียงรบกวน: Air Condition รุ่นใหม่ ๆ มีการออกแบบให้ทำงานเงียบ ไม่รบกวนเวลาพักผ่อน
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การประหยัดไฟช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ นับเป็นนวัตกรรมสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน ช่วยให้ชีวิตของทุกคนมีความสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนอบอ้าว การเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับห้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ห้องเย็นสบาย ประหยัดค่าไฟ และเพิ่มอายุการใช้งานของแอร์ การเลือกขนาด BTU ที่พอดีและเทคโนโลยีประหยัดไฟจะช่วยให้ได้แอร์ปรับอากาศ ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ดีที่สุด
หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย