รายละเอียดกระทู้
เจ้าของกระทู้
: Eun Woo
ว/ด/ป เวลา
: 16/02/23 14:16:02 PM
เลขไอพี
: 101.109.232.25
หัวข้อ
: แฟลชไดร์ฟราคาถูก กับราคาแพงต่างกันอย่างไร?
รายละเอียด
:

ปัจจุบันแก็ดเจ็ตสำหรับจัดเก็บข้อมูลแบบพกพาอย่างแฟลชไดร์ฟ ถือได้ว่ามีราคาจำหน่ายเฉลี่ยที่ค่อนข้างถูก โดยเราสามารถหาซื้อแฟลชไดร์ฟที่มีระดับความจุถึง 32 GB ได้ในราคาร้อยกว่าบาทเท่านั้นเอง ซึ่งนับเป็นราคาที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ได้ เช่นเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับราคาแก็ดเจ็ตไอทีอื่น ๆ ราคาแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลพกพานี้ก็ถือว่ามีราคาจำหน่ายเฉลี่ยที่ต่ำกว่าพอสมควร ซึ่งก็ส่วนนึงก็ต้องบอกว่าเป็นเพราะเหตุผลด้านกระบวนการผลิตแก็ดเจ็ตชิ้นนี้ที่ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อนอะไรมากมาย ประกอบกับในปัจจุบันอุปกรณ์พกพาอย่างแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรือกระทั่งระบบจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือระบบคลาวด์ก็สามารถทดแทนการใช้งานแก็ดเจ็ตดังกล่าวได้ ทำให้ความจำเป็นของแก็ดเจ็ตตัวนี้ลดน้อยถอยลงไปจากในยุคเริ่มแรกที่มีการผลิตออกมาวางจำหน่ายพอสมควร อย่างไรก็ตามแม้โดยทั่วไปแล้วราคาแฟลชไดร์ฟที่เราสามารถหาซื้อมาใช้งานได้จะค่อนข้างถูกด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ แต่ขณะเดียวกันหากใครได้ลองเลือกซื้อเลือกหาแก็ดเจ็ตชิ้นนี้สักอันมาใช้งานก็จะพบว่าราคาของแต่ละแบรนด์ แต่ละยี่ห้อก็ยังมีความแตกต่างกันพอสมควร หรือว่ากันง่าย ๆ ก็คือบางยี่ห้อก็ขายถูก บางยี่ห้อก็ขายแพงนั่นเอง ตัวอย่างเช่น แฟลชไดร์ฟความจุ 32 GB เท่ากัน บางแบรนด์ราคาร้อยกว่าบาท แต่บางแบรนด์จำหน่ายที่ราคาสามร้อยกว่าบาท เป็นต้น ซึ่งทำให้หลายคนอาจรู้สึกสงสัยว่าแฟลชไดร์ฟที่มีสเปคความจุเท่ากัน แต่ราคาต่างกันนี้แตกต่างกันอย่างไร ในบทความนี้จึงได้นำเอาความแตกต่างของแฟลชไดร์ฟแต่ละอัน หรือแต่ละแบรนด์ที่มีผลต่อการกำหนดราคาจำหน่ายมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

การทำการตลาดของแบรนด์นั้น ๆ ปัจจัยแรกที่ค่อนข้างมีผลต่อการกำหนดราคาจำหน่ายแก็ดเจ็ตของแต่ละแบรนด์ก็คือ การโปรโมท ทำการตลาด หรือการใช้งบโฆษณานั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียง หรือเป็นที่รู้จัก ติดหููกลุ่มลูกค้าย่อมใช้งบในการลงโฆษณา ทำการตลาดไปพอสมควร ต้นทุนตรงนี้ก็จะถูกนำมาบวกรวมกับต้นทุนผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นของแบรนด์ด้วย ทำให้แบรนด์ดังต่าง ๆ มักมีราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่สูงกว่าแบรนด์เล็ก ๆ ที่เราไม่ค่อยคุ้นหูกัน ดังนั้นก็แน่นอนว่าราคาแก็ดเจ็ตแฟลชไดร์ฟจากแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าไอทีที่เราคุ้นหูกันดีมักมีราคาจำหน่ายที่สูงกว่าแฟลชไดร์ฟจากแบรนด์เล็ก ๆ ในระดับความจุที่เท่ากัน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้นอกเหนือจากต้นทุนค่าการตลาดแล้ว ต้นทุนเรื่องของคุณภาพในกระบวนการผลิตที่ดีกว่าก็อาจเป็นอีกสาเหตุที่มีผลต่อการกำหนดราคาแก็ดเจ็ตเช่นกัน

ปริมาณความจุของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป็นแค่สเปคส่วนเดียวของแก็ดเจ็ต แม้ว่าปริมาณความจุ จะถือเป็นปัจจัยหลักที่เราพิจารณาเวลาเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟมาใช้งานสักอัน เพราะค่อนข้างส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานโดยตรง แต่ปริมาณ หรือตัวเลขความจุของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลก็ไม่ใช่สเปคทั้งหมดของตัวแก็ดเจ็ตนั้น ๆ ยังมีสเปคส่วนอื่นที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานแฟลชไดร์ฟอันนั้น ๆ อีก ตัวอย่างเช่น เวอร์ชั่นของพอร์ต USB ซึ่งแฟลชไดร์ฟที่มีระดับความจุเท่ากัน อาจให้พอร์ต USB ต่างเวอร์ชั่นกัน เช่น 2.0, 3.0, 3.1 ซึ่งความต่างของเวอร์ชั่น USB นี้ย่อมมีผลต่อความเร็วในการรับส่ง โอนย้าย หรือก๊อปปี้ไฟล์ต่าง ๆ (USB 3.1 มีความเร็วสูงกว่า 2.0 และ 3.0)  ดังนั้นแฟลชไดร์ฟที่มีระดับความจุข้อมูล 32 GB และใช้พอร์ต USB 3.1 ย่อมมีราคาที่สูงกว่าแฟลชไดร์ฟความจุ 32 GB ที่ใช้พอร์ต USB 2.0 เป็นต้น

ขอบคุณสาระดี ๆ จาก https://usb-perfect.com/

ชื่อ
: 1
ว/ด/ป เวลา
: 11/01/24 14:09:08 PM
เลขไอพี
: 104.28.206.177
ความคิดเห็น
:
ayan
ชื่อ*
<< 1 >
 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.