พาไปรู้จัก 2 สถานที่ ที่หนาวเหน็บที่สุดในโลก ติดลบเกือบร้อย

          อินเทรนด์ช่วงหน้าหนาว พาไปรู้จักสถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดในโลกจากทั้งขั้วโลกเหนือและใต้ สนานีวอสตอค (Vostok Station) ที่ขั้วโลกใต้ และหมู่บ้านโอมยาคอน  (Oymyakon) ทางขั้วโลกเหนือ สองสถานที่จากต่างขั้วโลกที่ขึ้นชื่อว่าหนาวที่สุดบนโลกใบนี้ ..แล้วจะรู้ว่าอากาศหนาวบนยอดดอยบ้านเราเด็ก ๆ ไปเลย 

          ช่วงย่างสิ้นปีนี้บ้านเราก็ได้เข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวเสียที โดยทางภาคเหนือนั้นหนาวจัด ยิ่งยอดดอยอินทนนท์ซึ่งสูงลิบที่สุดของไทยก็ถึงขั้นติดลบ ส่วนชาวเมืองในกรุงเทพฯ ก็ได้สดชื่นกับลมหนาวและความเย็นที่โรยตัวลงมาปกคลุม ต้องรีบตักตวงเอาไว้เพราะนาน ๆ ทีจะได้เจออากาศหนาวแบบนี้ แต่ในวันนี้เราจะไม่จะพูดถึงอากาศหนาวแบบเด็ก ๆ ในบ้านเราหรอกนะจ๊ะ เพราะเรากำลังจะพาคุณไปรู้จักกับ "สถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดในโลก" เย็นยะเยือกเกินกว่าคุณจะจินตนาการได้ ที่นั่นคือ "สถานีวอสตอค" (Vostok Station) อยู่ในประเทศรัสเซีย

          ได้ยินชื่อเรียกว่า สถานีวอสตอค แล้วก็อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่ามันเป็นสถานีรถไฟล่ะ เพราะวอสตอคแห่งนี้ เป็นสถานีวิจัยของของสหภาพโซเวียต หรือรัสเซียในปัจจุบัน ตั้งอยู่บนทวีปแอนตาร์กติก ณ ขั้วโลกใต้ที่แสนหนาวเหน็บ เพื่อทำภารกิจเจาะแกนน้ำแข็งเพื่อศึกษาและวัดความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลก และก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดในโลก โดยทำสติติอุณหภูมิต่ำสุดตามที่ได้รับการบันทึกไว้ ที่ -98.2 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2526 และยังมีอีกสถิติที่ไม่เป็นทางการ วัดผ่านเซ็นเซอร์ดาวเทียมได้ต่ำกว่าเดิม ที่ -94.7 องศาเซลเซียส เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมานี้เอง หนาวขนาดนี้ไม่เหมาะที่มนุษย์จะไปอาศัยอยู่ด้วยประการทั้งปวง 

          แต่มนุษย์นั้นก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความพยายามในการเอาตัวรอดเป็นเลิศ แม้สถานีวอสตอคที่ขั้วโลกใต้จะหนาวเย็นเข็ญใจจนมนุษย์ไม่อาจไปใช้ชีวิตอยู่ได้ คนเราก็ยังสามารถใช้ชีวิตภายใต้อุณหภูมิติดลบเกิน 6 เดือนต่อปี ที่ "หมู่บ้านโอมยาคอน" (Oymyakon) ในสาธารณรัฐยาคูเตีย ของรัสเซีย แถบขั้วโลกเหนือของเรา ชุมชนที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดในโลกที่มีคนอาศัยอยู่ ด้วยจำนวนประชากรประมาณ 500 คน สู้ทนต่อความหนาวเหน็บ ซึ่งเคยวัดได้ต่ำสุดที่ -67.7 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2476 

          ชาวบ้านที่นี่ปรับตัวให้ใช้ชีวิตได้ในสภาพอากาศที่โหดร้ายในหน้าหนาวซึ่งกินระยะเวลายาวนานกว่าครึ่งปี ซึ่งสถิติเดือนตุลาคม-มีนาคม ของทุกปี อุณหภูมิของที่นี่ไม่เคยอยู่เหนือระดับติดลบเลย แต่อย่างน้อย ๆ ที่โอมยาคอนก็ยังมีฤดูร้อนให้ชื่นใจในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ซึ่งอุณหภูมิจะอุ่นขึ้นได้ถึงระดับ 30 กว่าองศาเลยทีเดียว นับว่าเป็นการรอคอยท่ามกลางความหนาวเหน็บที่คุ้มค่าไม่น้อย นี่จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านยังคงปักหลักอาศัย ไม่ย้ายหนีความหนาวเหน็บไปตั้งรกรากที่อื่นนั่นเอง 

          ได้รู้จัก 2 สถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดในย่านขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้แล้วอย่างนี้ ก็ชวนให้คิดว่าถึงวิวจะสวยงามชวนตื่นตาตื่นใจกับหิมะหนาขาวโพลน แต่ยังไงเสียอากาศหนาววูบวาบสลับร้อน (จัด) อย่างบ้านเรา ก็ดูน่าอยู่น่าอาศัยกว่าเยอะเนอะ ว่าแล้วก็รีบกอบโกยบรรยากาศของอากาศเย็นสบายในฤดูหนาวของไทย เพื่อเก็บไว้ให้ชื่นใจสู้หน้าร้อนต่อไปดีกว่า 

ที่มา www.Kapook.com