เบี้ยแก้ เครื่องรางของขลัง

          เบี้ยแก้ ของขลังในตำนานที่ช่วยเสริมให้มีเมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี 

          ในอดีต เบี้ยแก้ถูกใช้เป็นเครื่องรางของขลังมีไว้ป้องกันสรรพอันตรายต่างๆ และยังสามารถใช้เป็นเครื่องป้องกันและแก้การกระทำทางคุณไสย ตลอดจนยาสั่ง ไข้ป่า เป็นอิทธิวัตถุที่มีลักษณะท้าทายอย่างเปิดเผยต่อการปล่อยคุณไสย และการ กระทำย่ำยีในฝ่ายกาฬไสยทั้งปวง

          ตามตำนานความเป็นมา ของวัตถุที่เราเรียกว่าเบี้ยแก้นั้น ค่อนข้างลึกซึ้ง สรุปคราวๆ ได้ว่าคนไทยเรามีการนับถือเบี้ยหรือจั่นกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลนานแล้ว จะนับถือเบี้ยว่าเป็นเครื่องหมายของเทพเจ้า นิยมเอาห้อยคอเด็กเป็นมงคลวัตถุเป็นเครื่องรางสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

          วิธีสร้างเบี้ยแก้ คือ การบรรจุปรอทที่ปลุกเสกแล้วเข้าไปในตัวเบี้ยจั่น (เบี้ยจั่น คือ เบี้ยชนิดหนึ่งที่สมัยก่อนคนไทยโบราณใช้แทนเงินตรา) แล้วหาวิธีอุดเอาไว้ไม่ให้ปรอทหลุดออกมาข้างนอกได้ ส่วนปรอทที่ใช้บรรจุในตัว เบี้ยจั่น นั้นใช้เป็นปรอทเป็น หรือปรอทดิน เวลาเขย่าเบี้ยแก้ใกล้ ๆ หู จะได้ยินเสียปรอทกระฉอกไปมา เสียงดัง "ขลุก ๆ" ซึ่งเรียกว่า "เสียงขลุก" ของปรอท ดังชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ขึ้นอยู่กับปริมาณปรอทที่บรรจุปริมาตรของโพรงในท้องเบี้ยจั่น และอุณหภูมิฤดูกาลในขณะนั้นๆ 

          จากนั้นนำมาปลุกเสกอีกครั้ง แล้วจึงหุ้มด้วยผ้าแดงที่ลงอักขระเลขยันต์ที่ปลุกเสกแล้ว จากนั้นจึงถักหุ้มเป็นลวดทองแดงขดเป็นห่วง เพื่อให้ใช้คล้องสร้อยแขวนคอหรือทำเป็นสองห่วงไว้ใต้ท้องเบี้ย เพื่อร้อยเชือกคาดเอว ซึ่งในปัจจุบัน เบี้ยแก้ที่มีชื่อเสียงผู้คนนิยมหามาไว้ในครอบครองคือเบี้ยแก้ของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วและเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอดวัดนายโรง 

          โดยคุณสมบัติเด่นของเบี้ยแก้ อันเลื่องชื่อของทั้งสองวัดนี้ คือ ปกป้องภยันตรายได้ทั้งปวง เป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาดมหาอุดคงกระพันทุกประการ คุ้มกันเสนียดจัญไร คุณไสยยาสั่ง และการกระทำย่ำยี ทั้งหลายทั้งปวงได้ชงัดนักป้องกันภูตพรายได้ทุกชนิด

          อย่างไรก็ดี ขอฝากไว้สักนิด ขึ้นชื่อว่าของขลังผู้ที่มีไว้ในครอบครองต้องรู้จักวิธีการใช้ดูแลรักษาอย่างถูกวิธี มิใช่เพียงพกของขลังติดตัวแต่ไม่ประพฤติตัวให้ดีอยู่ในศีลธรรมของขลังอนุภาพยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยเหลือคุ้มครองท่านได้ ดังนั้น หากคิดจะมีของขลังติดตัวควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อน

ที่มา : sanook