สเต็มเซลล์ แสงแห่งความหวังหรือแค่ธุรกิจหลอกคนรวย?

“สเต็มเซลล์” แสงแห่งความหวัง

หรือแค่ธุรกิจหลอกคนรวย? 

          เมื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าทุกๆ วัน โดยเฉพาะวิทยาการทางการแพทย์ ทุกคนคงเคยได้ยินคําว่า “สเต็มเซลล์” โดยเฉพาะสรรพคุณที่ดูเหมือนจะพิเศษยิ่งกว่ายาวิเศษหรืออาหารทิพย์ ทั้งเป็นเครื่องสําอางชั้นดีหรือแม้แต่เป็นยารักษาโรคโดยเฉพาะโรคที่เกือบจะหมดหวังได้หลายโรค แต่จริงหรือไม่ที่สเต็มเซลล์ที่เราได้ยินผ่านหูนั้นวิเศษอย่างที่ร่ําลือกัน

          หากลองเปิดเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง “Google” แล้วค้นคําว่า สเต็มเซลล์ เราจะเจอโฆษณาหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่กล่าวว่าผลิตจากสเต็มเซลล์ ไม่ว่าจะเป็น สเต็มเซลล์จากเมล็ดองุ่นเพื่อชะลอความชรา สเต็มเซลล์จากแอบเปิ้ลเพื่อบํารุงผิวพรรณ หรือแม้แต่สเต็มเซลล์จากรกแกะที่ช่วยเรื่องความอ่อนเยาว์ สารพัดคําโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้อ่านได้มีโอกาสควักกระเป๋าเสียสตางค์กันสักหน่อย หรือแม้แต่การโฆษณารักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือหายยากของโรงพยาบาลบางแห่ง เช่นโรคสมอง โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต โดยการ “ฉีด”สเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกาย ด้วยราคารักษาที่แสนแพง ทั้งที่ความจริงเป็นแค่การฉีด “น้ําเปล่า” หรือ “เซลล์” ที่ไม่ใช่สเต็มเซลล์เท่านั้น แถมด้วยการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่ผู้ป่วยและไม่แจ้งถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งหมดนี้ทําให้เกิดความเชื่อในวงกว้างว่าสเต็มเซลล์คือเซลล์วิเศษที่สามารถรักษาได้ทุกโรค

 

 

เมล็ดองุ่น                                                                         แอปเปิ้ล


          แท้จริงแล้วแม้ว่าสเต็มเซลล์จะได้รับการวิจัยในวงการแพทย์มากว่าสิบปี หากแต่การรักษาที่ได้รับการยอมรับมีเพียงอย่างเดียวคือ การรักษาโรคเลือดต่างๆ ด้วยสเต็มเซลล์จากระบบเลือดเท่านั้น ส่วนการใช้ สเต็มเซลล์รักษาโรคอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างทดลอง ได้ผลบ้างเล็กน้อยแต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับถึงขนาดนํามารักษาในคนได้ ส่วนการใช้สเต็มเซลล์เพื่อความงาม อาจกล่าวได้เลยว่า “ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้” แม้แต่ในระดับสัตว์ทดลอง

          อ่านมาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยว่า คําว่าสเต็มเซลล์แท้จริงนั้นคืออะไร ทํางานอย่างไร สเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกําเนิด เป็นเซลล์อ่อนที่พร้อมจะเจริญเติบโต แบ่งตัวเพิ่มขึ้นมาใหม่และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไปทําหน้าที่เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์สมอง เป็นต้น โดยเมื่อเซลล์เหล่านี้ตายลง จะไม่มีเซลล์ใหม่มาทดแทน แต่ร่างกายของเราจะจัดการให้เซลล์อีกกลุ่มหนึ่งสามารถเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปทําหน้าที่เฉพาะอย่างนั้นๆ แทนได้ และเนื่องจากเซลล์เหล่านี้ไม่ใช่เซลล์ที่ทําหน้าที่เฉพาะเจาะจงแต่สามารถเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ที่ทําหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้ โดยแบ่งตัวใหม่ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงทําให้นักวิทยาศาสตร์หันมาให้ความสนใจพัฒนาเพื่อเป็นความหวังของการรักษาโรคต่างๆ ที่เป็นอาการป่วยเนื่องมาจากเซลล์ เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะเสียหายหรือเสื่อมสภาพไป โดยหวังให้สเต็มเซลล์พัฒนาไปเป็นอวัยวะที่ต้องการได้

 

การเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์จากเอมบริโออายุ 5 วัน      


          อย่างไรก็ตามแม้ว่าเรากําลังมีความหวังกับการรักษาแนวใหม่ด้วยเซลล์บําบัด แต่เนื่องจากการศึกษาเรื่องเหล่านี้ยังไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติจริง รวมทั้งมีประชาชนให้ความสําคัญและเข้าใจผิดกันมาก แพทยสภาจึงออกโรงเตือนความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์ในการรักษา ดังนี้

          ► ความเชื่อที่ว่าการใช้เซลล์ของตัวเองฉีดเข้าร่างกายตัวเองเป็นเรื่องปลอดภัย ทั้งๆ ที่หากผู้ฉีด ฉีดด้วยความไม่ชํานาญ ก็มีโอกาสทําให้เส้นเลือดอุดตันได้ และการที่เป็นเซลล์ตัวเองทําให้ระบบภูมิคุ้มกันมองไม่เห็น ถ้าเพาะเลี้ยงผิดปกติก็ทําให้เกิดเป็น “มะเร็ง” ได้ 

          ► การฉีดเซลล์สัตว์เข้าไป เช่น “รกแกะ” แล้วร่างกายเราเห็นเป็นสิ่ง “แปลกปลอม” จึงจดจําและทําลายเซลล์ที่มีโปรตีนที่มีลักษณะคล้ายเซลล์รกแกะนั้น ในร่างกายคนที่ได้รับการฉีดด้วย เป็นเหตุให้เกิดอาการภูมิแพ้ตัวเอง

          ► ความเชื่อที่ว่าเซลล์ที่ฉีดเข้าไปจะกลายเป็นเซลล์ที่ถูกต้องที่อวัยวะเป้าหมาย แต่แท้จริงแล้วสเต็มเซลล์มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เมื่อฉีดสเต็มเซลล์ บางครั้งก็กลายเป็นเนื้อเยื่อที่ไม่ต้องการ เช่น กลายเป็นกระดูกในสมอง หรือก้อนเนื้องอก

          จากข้อมูลข้างต้นจึงพอจะเป็นเสียงยืนยันได้ในระดับหนึ่งสําหรับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ว่าคุ้มค่าจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่คํา “โฆษณาชวนเชื่อ” ของนักธุรกิจการแพทย์เท่านั้น ซ้ําร้ายสถานพยาบาลหรือสถานเสริมความงามบางแห่งหลีกเลี่ยงการใช้คําว่าสเต็มเซลล์แต่หันมาใช้คําว่าเซลล์บําบัด หรือเซลล์ซ่อมแซมแทน ทั้งที่จริงอาจไม่ใช่เป็นการฉีดเซลล์เข้าร่างกายผู้ป่วยด้วยซ้ํา เพราะความจริงแล้ว สเต็มเซลล์ต้องถูกเพาะเลี้ยงอย่างดีที่สภาพแวดล้อมเหมาะสม ไม่ใช่การบรรจุขวดแล้วเอามาใช้ได้ สิ่งที่ฉีดเข้าไปจึงอาจเป็นสารอันตรายที่ทําให้เห็นผลรวดเร็ว หรืออาจเป็นแค่น้ําเปล่าก็ได้ทั้งนั้น และในบางครั้งมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านบาท ซึ่งนับว่าแพงมากโดยไม่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตามไม่ว่าสารที่ฉีดเข้าไปจะเป็นอะไร นอกจากการเสียเงินในกระเป๋าแล้ว อาจแถมด้วยความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง และยังไม่มีรายงานทางวิชาการมารองรับ ซึ่งก็เท่ากับผู้ป่วยกําลังเป็นหนูทดลองนั่นเอง ดังนั้น ท่านผู้อ่านคงได้คําตอบอยู่ในใจกันแล้ว สเต็มเซลล์ เป็นแสงแห่งความหวังหรือธุรกิจหลอกคนรวย

 

 


ผู้เขียน: อันดา (ชลันดา มีมุข)
ผู้ช่วยวิจัย/นิสิตปริญญาเอก 
สาขา Polymer Science
คณะ The Petroleum and Petrochemical College
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อ้างอิงจากเว็บไซต์ ณ วันที่ : 29/06/2014
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000078775
http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/5/stem-cell/stem-cell1.htm
http://www.cell.com/cell-stem-cell/abstract/S1934-5909(07)00322-0 
รูปภาพจาก :http://www.exploratorium.edu/imaging-station/research/stem_cells/story_stem_cells2.php

บทความที่เกี่ยวข้อง
ถอดบทเรียน หมอเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอม ศัลยกรรมมรณะ ... อ่านต่อ
ศัลยกรรมใบหน้า จะเปลี่ยน โหงวเฮ้ง ได้หรือไม่ ... อ่านต่อ
ทำศัลยกรรมมา กี่วันกว่าจะเข้าที่? ... อ่านต่อ
ดูดวง / ฮวงจุ้ย
ทายนิสัย จากลายมือการเขียนตัวเลข ... BY : หมอเมท ... อ่านต่อ
คาถาทวงหนี้ คาถาอีกาวิดน้ำ ใช้สำหรับคนยืมเงินแล้วไม่คืนหรือของหาย ... อ่านต่อ
ตากระตุก ตาเขม่น ลางสังหรณ์ที่บ่งบอกเรื่องราวอะไร? ... อ่านต่อ
 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.