แรว๊งงง!!! Spoil : คิดถึงวิทยา
คิดถึงวิทยา (Thailand, นิธิวัฒน์ ธราธร, 2014, D+)


 
          ทำไมทุกคนถึงอยากให้กูหยาบคาย ถ้าอยากให้หยาบคายกันอย่างเป็นระบบ ควรจะมี crowdfunding ได้แล้ว : สปอยล์หมดเลยนะไอ้เหี้ย กูเตือนแล้วอย่ามาเสือกด่านะมึง พอตัดเกรดออกมาได้เท่านี้ก็รู้สึก gutted เหมือนกันนะเว่ย เพราะเอาจริงๆ ก็เห็นความตั้งใจในเนื้องาน โดยเฉพาะโปรดักชั่นดีไซน์ กำกับภาพ แล้วก็ดนตรีประกอบ มีส่วนช่วยส่งเสริมหนังเยอะพอสมควร แล้วที่กังวลกันเป็นวงกว้าง (เหรอวะ เอาเป็นว่ากว้างในวงของกูละกัน) ว่าเราได้เสียพลอยเฌอมาลย์ให้หม่อมน้อยกับช่องสามไปอย่างถาวรแล้ว มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น เรายังเห็นความเป็นนักแสดงที่ดีมากของเฌอมาลย์อยู่ในหนังเรื่องนี้ แม้ว่ามันจะไม่ได้ท็อปฟอร์มหรือมีเสน่ห์มากๆ แบบตอน Last Life in the Universe กับ รักแห่งสยาม
 
          หลายฉากเฌอมาลย์เล่นดีมาก โดยเฉพาะพวกฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ซับซ้อนแบบมีแต่กล้องจับ facial expression ดูแล้วแบบ โหยยย เสียดายว่ะ ทำไมเสียดาย เพราะว่ามันดีได้มากกว่านี้ร้อยเท่า! ในเมื่อไม่ได้รู้ว่า process ในการทำงานหรือชอยส์ในการเลือกกำกับนักแสดงของเรื่องนี้เป็นยังไงก็คงตอบไม่ได้ แต่มีความรู้สึกมาก (จะว่าอคติก็ได้วะ) คือเหมือนเป็นการเลือกกำกับ เลือกตัด ไม่ให้การแสดงของพลอยมันกลบบี้มาก - เพราะบี้แม่งเล่นหนังไม่ได้ เ ล ย
 
          แบ่งหนังได้หลวมๆ เป็นสองก้อนคือก้อนหนังรักและก้อนหนังครู เอาก้อนหนังรักก่อนละกัน คือก็จะพยายามไม่ไปอะไรกับมันมากนะเพราะนี่คือจีทีเอช และเราก็รู้อยู่แล้วว่าจีทีเอชทำหนังอย่างไร มันคือแฟนตาซีอยู่แล้ว มันคือโรแมนติกอยู่แล้ว (อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนแม่งคงด่ากูว่า แล้วทีตอนไทม์ไลน์นะมึงนะ ใส่เขาซะเต็มเลยนะ อันนั้นคือในความเป็นหนังรักแฟนตาซีมันก็ล้มเหลวอย่างน่ารังเกียจนะ เข้าใจตามนั้นนะ) เพราะฉะนั้นเราจะไม่มีปัญหากับตอนจบ หรือกับตรรกะที่ว่าทำไมตัวละครสองตัวนี้มันถึงเชื่อมโยงกันผ่านหน้าไดอารี่จนนำไปสู่ตอนจบแบบนั้นได้ แต่จุดที่ทำให้มีปัญหาก็คือวิธีที่หนังเลือก execute ความสัมพันธ์ระหว่างพลอยกับเวียร์
 
          พลอยถูกปูมาว่าเป็นครูผู้หญิงแบบหัวสมัยใหม่ มีเรื่องกับ ผอ. เพราะสักดาวที่ข้อมือ เสียภาพลักษณ์ครู ไม่ได้ ไปลบออก นางก็แข็งไง ไม่ลบค่ะ จะอะไรกันนักหนาคะ เลยโดนส่งมาสอนกลางเรือนแพเลยเป็นไงล่ะมึง แต่พอมาถึงซีน conflict แรกระหว่างพลอยกับเวียร์ (ซึ่งจะมีคอนฟลิกต์ชัดเจนทั้งตัวพลอยกับบี้ว่าแม่งไปสอนกลางเรือนแพไกลปืนเที่ยงโทรศัพท์สัญญาณก็ไม่มี มึงต้องมีปัญหากับผัวกับเมีย) มันเสือกดันขึ้นมาว่าพลอยแม่งมีนิสัยทะเลาะกับผัวแล้วชอบท้าเลิก ผัวก็ไม่เข้าใจไงแบบ เอาอีกละ งี่เง่าอีกละ (กูก็คิดแบบเดียวกันนะ) ก่อนที่พลอยจะไปเขียนในไดอารี่ว่า ที่ท้าเลิกบ่อยๆ ก็เพราะอยากให้ง้อนั่นแหละ กูตะโกนอยู่ในใจเลย อีห่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
Lameeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeee สัสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
          แม่งเป็นอะไรที่สเตอริโอไทป์เหี้ยๆ เลยอ่ะ ถ้าจะให้ยกมาเปรียบเทียบมันให้อารมณ์เหมือนซีนจบของ Home (ที่เจมส์เรืองศักดิ์ด่าๆๆๆ นุ่นศิรพันธ์ออกไมค์ให้ชาวบ้านในงานแต่งฟัง แต่เสือกถูกพรีเซนต์เป็นซีนแห่งความรัก ความสุข ความทรงจำ) ไม่ได้จะบอกว่าผู้หญิงแบบนี้มันไม่มีนะเว่ย ผู้หญิงที่แบบแข็งต่อกฎระเบียบแต่อ่อนกับผัว กูเชื่อว่ามีเต็มไปหมด แต่คือหนังจีทีเอชหลายเรื่องจะมีปัญหาตรงนี้ตลอด คือวางอารมณ์หรือแพทเทิร์นตัวละครเป็น "หมาก" จนมันไม่สมูธ เป๊ะไปหมดจนขาดความเป็นมนุษย์ มันเลยไม่ได้ทำให้ตัวละครพลอยมีมิติในด้านนี้มากขึ้น แต่คือการหยิบสเตอริโอไทป์มาจับๆ วางๆ ในที่ที่ถูกต้อง (ตามตำรา) เฉยๆ - ยิ่งตอนหลังพอหนังแม่งพยายามโยงเทิร์นนิงพอยต์ว่าพลอยมันรู้สึก connect กับบี้ตรง "จิตวิญญาณความเป็นครู" (ฉากรถไฟ) นี่ยิ่งตอกย้ำสมมติฐานเลยว่า นี่ไง แม่งเป็นแบบนี้จริงๆ ด้วย คือทุกอย่างเป็นหมากไปหมด เฮ้ย ทำหนังรักเว่ย ไม่ได้ทำหนังทริลเลอร์แดนบราวน์ บางอย่างพยายามมากไปกูก็ไม่ซื้อไง (คนอื่นซื้อหรือเปล่าไม่รู้ แต่กูไม่ซื้อมากๆ ขายคืนด้วย)
 
          จริงๆ มีหลายฉากที่เห็นสามวิแรกแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย โอเคว่ะ จีทีเอชกล้าเล่นซีนแบบนี้ด้วยเว่ย อย่างซีนศพลอยมาติดใต้ส้วมเรือนแพที่ถ่ายให้เห็นศพจะจะไปเลย หรืออย่างซีนคอนฟลิคต์ร้ายแรงที่สุด (ที่เอาไว้กำจัดเวียร์ออกจากความสัมพันธ์) ที่เอาผู้หญิงท้องเดินมาหาพลอยหน้าห้องเรียนแม่งเลย (ถ่ายลองเทคด้วยนะมึง!) แต่มันหักจบซีนได้น่าผิดหวังมากทั้งหมด อย่างฉากศพที่จบแค่ว่าพลอยแม่งก็ลงน้ำไปลากศพออกมา แสดงถึงความทุ่มเทในฐานะครูอะไรแบบนี้ หรืออย่างซีนหลังที่ความจริงคือเวียร์มันก็เงี่ยนก็เหงาไปเย็ดคนอื่นบ้างตอนเมียไม่อยู่ แต่อีนั่นเสือกท้องโย้มาเลย จริงๆ ถ้าไม่ถ่ายลองเทคนี่วิธีพรีเซนต์แม่งละครมากๆ นะ คือไปเย็ดคนอื่นแล้วก็ต้องท้องกลับมาแฉไง อินเนอร์ตัวละครพลอยในซีนนั้นจริงๆ สามารถทำให้ดีมากๆ ได้และก็ดูจะเห็นความพยายามตรงนี้อยู่ คือตัวละครไม่น่าจะถือโทษในประเด็นนี้ตรงที่ว่า "มึงนอกใจกู มึงไปเย็ดคนอื่น" แต่เป็นการถือโทษในประเด็นที่ว่า "ทำเหี้ยอะไรแล้วทำไมไม่บอกกู ปิดบังกู ไม่จริงใจกับกู" (คนละประเด็นกันนะ แยกให้ออก) แต่ปัญหาคือมึงสเตอริโอไทป์ชายหญิงไปแล้วตั้งแต่ต้นไง ตั้งแต่ท้าเลิกก็เพราะอยากให้ง้อ หรือผู้ชายเป็นคนแยกแยะเรื่องงานเรื่องส่วนตัวไม่เอาอารมณ์นำหน้า ไอ้อินเนอร์แบบหลังมันเลยไม่ออก มันเหลือแต่แบบแรก
 
          ก้อนหนังรักน่ะไม่ได้รู้สึกต่อต้านมากจนเกรดลงไปขนาดนี้หรอก (อย่างที่บอกว่าพยายาม "ละ" ไว้แล้วว่าแม่งต้องแฟนตาซีแน่ๆ รวมถึงสเตอริโอไทป์ต่างๆ ที่มาในฐานะหมากของความสัมพันธ์มากกว่าความเป็นมนุษย์) มีปัญหามากกว่าคือก้อนหนังครูใหญ่ๆ อันแรกเลยนอกจากบี้แม่งเล่นหนังไม่ได้ สิ่งที่ต่อเนื่องจากการที่บี้แม่งเล่นหนังไม่ได้ก็คือกูไม่เห็นจิตวิญญาณความเป็นครูของอีเหี้ยครูสองนี่เลยสัส ดูไปครึ่งเรื่องแล้วก็รู้สึกว่า เดี๋ยวนะมึง ถ้าจะบอกว่านี่คือจิตวิญญาณของครูที่ดี กูสงสารเด็กมากนะ บ้านก็อยู่ลอยน้ำกลางเขื่อนห่างไกลจากระบบการศึกษาเศรษฐกิจสังคมการเมือง แล้วยังต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับภาพลวงครูที่ดีแบบนี้อีก แล้วปัญหาคือมันพยายามให้จิตวิญญาณความเป็นครูนี่เป็นตัวไกด์ให้อีบี้อีพลอยรู้สึก connect ซึ่งกันและกันไง นี่แหละที่ยิ่งพัง หนังพยายามทำให้เห็นพัฒนาการด้วยการให้ซีนแรกๆ ของไอ้บี้แม่งเอาไม้เรียวตีเด็กเว่ย ตีเด็กแบบไร้เหตุผลเพราะเด็กลงไปว่ายน้ำตอนแม่งไม่อยู๋ แม่งเลยกลัวเด็กจมน้ำ (มึงจะกลัวเด็กจมน้ำทำเหี้ยอะไร เด็กมันว่ายน้ำมาตลอดชีวิต - อันนี้หนังไม่ได้ผิดนะ ไม่ได้ด่าหนังนะ ด่าตัวละครไอ้บี้ เพราะตัวละครเด็กก็พูดออกมาเองเพื่อแย้งแล้ว) แต่พัฒนาการในการเป็นครูของไอ้บี้คือการก๊อปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไดอารี่ของอีพลอยเนี่ยเหรอ มันใช่เหรอมึง คือจิตวิญญาณความเป็นครูนี่คือสามารถก๊อปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากสิ่งที่ "ครู" ผู้เป็นแรงบันดาลใจแบบทุกกระเบียดนิ้ว (ตั้งแต่วิธีครีเอตการสอน ตีตารางบนกระดาน หรือแม้แต่โจทย์เลขมันยังใช้โจทย์ข้อเดียวกันเป๊ะๆ) เคยตั้งสเตตัสเทียบไปว่า เออ บิ๊กไอเดียหนังเรื่องนี้มันเหมือนหนังญี่ปุ่นเรื่อง Closed Note เนอะ คือครูที่มาอ่านไดอารี่ของครูเก่าก็ได้แรงบันดาลใจในชีวิตมาจากตัวหนังสือ มีความรู้สึก connect กับสิ่งที่ตัวเองอ่าน แต่มันไม่ใช่การ copy-paste แบบนี้ไงมึง
 
          พูดแบบซีเรียส ก้อนหนังครูนี่พังตั้งแต่ซีนแรกที่พลอยมาแว้ดๆ เรื่องรอยสักนี่แหละ นี่มันคือวิธีการเดียวกับที่นิธิวัฒน์เคยทำกับตัวละครของ ต่าย-ชุติมา ใน หนีตามกาลิเลโอ คือใช้ตัวละครที่ดูมีความเป็นขบถมาเป็น cautionary tale แล้วหักให้ตัวละครนี้ได้ "เรียนรู้" "คลี่คลาย" ไปจนถึง "สำนึกผิด" ต่อสิ่งที่ตัวเองทำ ซึ่งแม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เพราะตอนหลังต้องมีซีนพลอยมาขอโทษ ผอ. ที่หนูเคยทำตัวไม่ดี (ถึงจะไม่ได้ขอโทษแบบร้องห่มร้องไห้ เอาพวงมาลัยไปไหว้ แค่ขอโทษเฉยๆ แบบมนุษย์ก็เหอะ มันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอโทษอยู่ดี) ไปจนถึงพล็อตส่วนที่ย้ายตามผัวไปสอนโรงเรียนในเมืองที่ก็ต้องลบรอยสัก แต่งตัวสุภาพ ตัดผมเรียบร้อย แล้วก็มีปัญหากับอีครูแก่ ผอ. ในวิชาวิทยาศาสตร์แล้วโดนผัวหักหน้าอีก (ซึ่งวิธีแสดงของพลอยที่มันจะมีอาการแว้ดๆ อยู่ในน้ำเสียง ไม่ว่าพลอยจะเลือกเองหรือเกิดจากการกำกับ มันจูงให้เราคล้อยว่า "อีนี่สมควรโดนหักหน้าแล้ว มึงมันไม่มีกาลเทศะ")
 
          เมื่อพูดเรื่องการศึกษาก็ต้องพูดถึงเด็ก คือน่าทึ่งมากที่เด็กในเรื่องนี้แบนและขาดมิติยิ่งกว่าเด็กของทูลหม่อมใน หนึ่งใจเดียวกัน (ซึ่งนั่นคือ typical แบบ เด็กชนบท ด้อยโอกาส ยากจน ขาดการศึกษา ไร้การพัฒนา และต่อมาก็จะรักคุณครูอุดมคติอย่างสุดหัวใจ มีครบทุกอย่างที่ย้อนยุคไปสมัยตกเขียว) เด็กในเรื่องมีฟังก์ชั่นเดียวคือก็สะท้อนเรื่องการศึกษาไง ชีวิตของเด็กแม่งแทบไม่มีมุมอื่นเลยนอกจาก เออ ก็มาเรียนหนังสือ แล้วคือมาเรียนหนังสือแบบนอนโรงเรียนห้าวัน เสาร์อาทิตย์กลับบ้านเรือนแพไปช่วยพ่อแม่จับปลา พล็อตของ ช่อน เด็กที่โตสุดในชั้นที่จะไม่เรียนต่อ (จนอีพลอยโกรธมาก รู้สึกเจ็บปวดมาก ว่าเด็กไม่อยากเรียนต่อ ไม่ให้ความสำคัญต่อการศึกษา) เริ่มมาเหมือนจะน่าสนใจ แต่พอหักจบมาแบบทื่อๆ ว่าไอ้บี้ไปช่วยพ่อไอ้ช่อนจับปลา เขาก็เลยใจอ่อนปล่อยมันกลับมาเรียนหนังสือนี่คือเฟลเหี้ยๆ นึกออกมะ กลายเป็นว่าชีวิตของคนในเรือนแพกลางน้ำที่ต้องมาพึ่งอีโรงเรียนเนี้ย แม่งถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นฐานรองยกระดับความดีงามให้อีครูทั้งสองคน ที่หลายครั้งก็ไม่ได้ถูกเขียนให้ทำอะไรที่ deserve แก่คำว่าจิตวิญญาณความเป็นครู แต่มันถูกยกระดับมาได้เพราะมีตัวละครพวกนี้อยู่
 
          ประเด็นเรื่องเด็กที่ไม่ fit in กับระบบกระทรวงศึกษาธิการ ระบบการศึกษาส่วนกลาง ชีวิตของคนที่ไม่ได้มองเห็นการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ ทุกอย่างถูกลดทอนลงเพื่อโยงเส้นมาหาอีครูสองคนนี้ทั้งนั้น การที่เด็กๆ อยากจับปลา ในหัวมีแต่เรื่องจับปลา ชีวิตมีแต่น้ำ หรือเมื่อถามความฝันแบบซีเรียสว่าอนาคตอยากจะเป็นอะไร ถูกกดให้เป็นแค่ moral dilemma ของครูอีพลอยเท่านั้น ในขณะที่หนังวางตัวแฉลบไปพูดเรื่องระบบการศึกษา ครูหัวเก่ากับครูหัวใหม่ หนังกลับไม่ให้มิติกับตัวละครเด็กเหล่านี้ เหมือนมีภาพในหัวอยู่แล้วว่า เด็กก็ต้องคู่กับโรงเรียนดิวะ พ่อแม่ก็ต้องอยากให้ลูกเรียนหนังสือดิวะ และตัวละครเด็กกับพ่อแม่ที่หลุดออกจากกรอบนี้ก็เป็นแค่อาการช็อค (เด็กกลับมาเรียนนอกจากเรื่องไอ้ครูบี้ไปบ้าจับปลาช่วยพ่อเขา อีกเหตุผลที่หนังแม่งย้ำแล้วย้ำอีกเป็นโมทีฟคือ เรียนไปจะได้ไม่โดนเขาโกง ฟังแล้วแบบ แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม มีการศึกษาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา) ไม่ได้ทำให้ตัวละครเปลี่ยนความคิดหรือทัศนคติต่อความเป็นครูเลยสักนิด คือไม่มีแม้แต่จุดเล็กๆ ของทั้งอีสองครูนี้ที่จะเข้าใจตัวละครเด็กช่อนกับพ่อว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ แต่ก็ยังได้รับการยกย่องในจิตวิญญาณของความเป็นครูอยู่ ทำไมวะ ทำไม ทำไม ทำไม
 
          พูดสั้นๆ ในก้อนหนังครูก็คือ กูเข้าใจได้ถ้าเด็กจะรักครูอีพลอย แต่ไม่เข้าใจสัสๆ เมื่อหนังเขียนให้เด็กๆ รักครูไอ้บี้น่ะ เพราะหนังใช้สองฉากสำคัญเพื่อโกงอารมณ์ นั่นคือฉากลากรถไฟ และฉากพายุถล่ม (ซึ่งตอนดูยังงงอยู่ว่าภาคเหนือที่มีแต่ภูเขามันมีพายุแบบนี้ได้จริงเหรอวะ แต่กูก็ไม่ใช่นักอุตุนิยมวิทยาน่ะนะ และหนังคือการสร้างมายาให้คนเชื่อ ยกประโยชน์ให้วิทยาไปอีกข้อก็ได้) ซึ่งนึกออกมะ เอาตัวละครโจรนาคปรกมาโยนใส่ลงไปแทนไอ้บี้ เด็กมันก็ต้องรักล่ะวะ เล่นใหญ่ซะขนาดนี้ - มีประเด็นที่น่าคิดอยู่อีกต่อไปว่า แล้วในฐานะโรงเรียนที่มีหน้าที่ให้การศึกษา ถึงจะขาดแคลนครูหรืออะไรยังไงก็ตาม แต่การส่งครูที่แม่งต่ำกว่ามาตรฐานสัสๆ แบบนี้ไปได้เนี่ยสิที่น่าตั้งคำถาม คือมึงเปิดสาขาเรือนแพไว้ลดหย่อนภาษีเหรอ - นี่คือสิ่งที่หนังขี้โกง ไม่ยอมตั้งคำถาม คือหนังจะไม่ตั้งคำถามก็ได้เว่ย หนังไม่ได้มีหน้าที่ตั้งคำถามที่กูอยากถามถึงจะเป็นหนังดี แต่ปัญหาคือหนังมันทำตัววิพากษ์และแสดงให้เห็นตำหนิของระบบการศึกษาไง การกระโดดข้ามเรื่องนี้ไปทั้งที่กำลังพูดเรื่องอื่นอยู่ เลยเป็นสิ่งที่ยิ่งน่าตั้งคำถามเข้าไปอีก เรือนแพ/โรงเรียนทุรกันดาร/ไกลปืนเที่ยง เป็นที่ที่นอกจากเอาไว้ปลูกเรื่องรักนี่มันสามารถปลุกจิตวิญญาณความเป็นครูขึ้นมาได้ by default เลยเหรอวะ เหมือนฮอร์โมนตอนหนึ่งที่พยายามเซ็ทอัพครูหัวเก่ากับครูหัวใหม่ แต่ก็ยังมานั่งกราบชุดนักเรียนกันอยู่

          ต่อนะ ลืมเขียนไปข้างบนนั้น จริงๆ ตัวละครของต่ายอ่ะเริ่มต้นมาก็น่าสนใจ ที่นางด่าไอ้บี้ว่าแม่งทำตัวไม่มีอนาคต : แวบแรกคนดูจะคิดว่า เฮ้ย เป็นครูเลยนะเว่ยไม่มีอนาคตยังไง ซึ่งมันคือประเด็นที่น่าสนใจมากๆ ชีวิตของพวกครูอัตราจ้าง ครูที่ไม่ได้บรรจุ นี่มันล่องลอย ไร้หลักยึด และมีอะไรที่ต่างไปจากครูในแบบ typical ครู ที่เรารู้จักหรือมายกย่องเชิดชูกันยังไงบ้าง (แล้วการที่มีตัวละครมาบอกว่ามึงเป็นครูแบบนี้มึงไม่ได้มีอนาคตนักหรอก นี่มัน slam ใส่หน้าสุดๆ) แต่พอมันจบด้วยการที่ผลักเรื่องนี้ให้ต่ายไปมีผัวใหม่ (ซึ่งไม่ได้ดูมีอนาคตมากกว่าไอ้บี้เลย) กูก็เบะปากเป็นรูปป้ายโฆษณาไทยประกันชีวิต


นานาจิตตังนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


ที่มา : Chayanin Tiangpitayagorn 
คิดถึงวิทยา, รีวิวหนัง, หนังใหม่, หนังชนโรง, รีวิวหนังใหม่, review หนัง, Review หนัง, teacher's diary, Teacher's Diary, พลอย เฌอมาลย์, บี้ สุกฤษฎิ์, สอง คิดถึงวิทยา, แอน คิดถึงวิทยา, โรงเรียน, คิดถึงโรงเรียน, บันทึกของครู, รีวิวหนัง คิดถึงวิทยา, รีวิว คิดถึงวิทยา, GTH, วิจารณ์หนัง คิดถึงวิทยา, จุดต่ำสุดของหนัง GTH, สปอย คิดถึงวิทยา, สปอยหนัง คิดถึงวิทยา, คิดถึงวิทยา, รีวิวหนัง, หนังใหม่, หนังชนโรง, รีวิวหนังใหม่, review หนัง, Review หนัง, teacher's diary, Teacher's Diary, พลอย เฌอมาลย์, บี้ สุกฤษฎิ์, สอง คิดถึงวิทยา, แอน คิดถึงวิทยา, โรงเรียน, คิดถึงโรงเรียน, บันทึกของครู, รีวิวหนัง คิดถึงวิทยา, รีวิว คิดถึงวิทยา, GTH, วิจารณ์หนัง คิดถึงวิทยา, จุดต่ำสุดของหนัง GTH, สปอย คิดถึงวิทยา, สปอยหนัง คิดถึงวิทยา, คิดถึงวิทยา, รีวิวหนัง, หนังใหม่, หนังชนโรง, รีวิวหนังใหม่, review หนัง, Review หนัง, teacher's diary, Teacher's Diary, พลอย เฌอมาลย์, บี้ สุกฤษฎิ์, สอง คิดถึงวิทยา, แอน คิดถึงวิทยา, โรงเรียน, คิดถึงโรงเรียน, บันทึกของครู, รีวิวหนัง คิดถึงวิทยา, รีวิว คิดถึงวิทยา, GTH, วิจารณ์หนัง คิดถึงวิทยา, จุดต่ำสุดของหนัง GTH, สปอย คิดถึงวิทยา, สปอยหนัง คิดถึงวิทยา
 
ดวง / ฮวงจุ้ย
เบญจเพส หรือ วัยเบญจเพส เลขอายุที่ทุกคนเกรง 24 25 26 รู้แล้วป้องกัน ดีกว่าแก้ไขตอนที่เกิด ... อ่านต่อ
ตัวเลขเสริมบุคลิกภาพ เสริมเสน่ห์ให้ผู้หญิง ... อ่านต่อ
ตัวเลข 359 นักพัฒนาต่อยอดธุรกิจ ... อ่านต่อ
ดูดวง / ฮวงจุ้ย
ทายนิสัย จากลายมือการเขียนตัวเลข ... BY : หมอเมท ... อ่านต่อ
คาถาทวงหนี้ คาถาอีกาวิดน้ำ ใช้สำหรับคนยืมเงินแล้วไม่คืนหรือของหาย ... อ่านต่อ
ตากระตุก ตาเขม่น ลางสังหรณ์ที่บ่งบอกเรื่องราวอะไร? ... อ่านต่อ
 

 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

หมอดู - ดูดวง - ทำนายเบอร์โทร - ทำนายตัวเลข - หมอเมท - ทศวิวัฒน์ - พยากรณ์เบอร์ - เบอร์มงคล - เลขมงคล - เลขศาสตร์ - หมอดูเบอร์ - จัดเบอร์มงคล - อบรมเรื่องตัวเลข - บทความตัวเลข - เลขรวย

бишкек эскорт

 

Copyright @2014 Horonumber.com All rights reserved.